TESA, CRMA, NIA ร่วมกับเครือข่ายภาคอุตสาหกรรม และสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ รุกหน้าพัฒนาบุคลากรทางด้าน Embedded System หวังชูไทย เป็นอุตสาหกรรมฐานความรู้แห่งใหม่ของโลก

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ของโพสต์ ให้ใส่คีย์เวิร์ดลงในหัวข้อโพสต์ด้วย

ทีซา รร.จปร. และสนช. ผนึกกำลังกับผู้ประกอบการทางด้านเทคโนโลยีระบบสมองกลฝังตัว (Embedded System)  และสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ร่วม 37 สถาบัน รุกหน้าพัฒนาบุคลากรทางด้านระบบสมองกลฝังตัว การออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ หวังยกระดับไปสู่อุตสาหกรรมฐานความรู้(Knowledge Industry) แห่งใหม่ของโลก เพื่อตอบสนองความต้องการ และสร้างมูลเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมของประเทศไทย และแข่งขันได้ในเวทีโลก ด้วยการจัดประชันทักษะทางด้านระบบสมองกลฝังตัวชิงแชมป์ประเทศไทยครั้งที่ 19 (TESA Top Gun Rally 2025: TGR2025) ในหัวข้อ “นวัตกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ” (Defense Innovations) โดยมีนักศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาการคอมพิวเตอร์  และเครือข่ายกองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ และโรงเรียนตำรวจ ร่วม 400 คน ที่ผ่านการคัดเลือกสุดยอดฝีมือของแต่ละสถาบันเข้าร่วม ในระหว่างวันที่ 9-15 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อ.เมือง จ.นครนายก

o   สมาคมสมองกลฝังตัวไทย (Thai Embedded Systems Association: TESA)

o   โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (Chulachomklao Royal Military Academy: CRMA)

o   สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (National Innovation Agency: NIA)

“อุตสาหกรรมการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Design) เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้ความรู้เป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำที่ทำให้เกิดการนำผลผลิตไปใช้ต่อยอดในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม และอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งล้วนแต่เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างสูงในปัจจุบัน  และทั้ง 3 อุตสาหกรรมดังกล่าว ยังมีมูลค่ารวมทั้งโลกสูงหลายแสนล้านเหรียญสหรัฐ  การเจริญเติบโตของบริษัทออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยกำลังถูกจำกัด  เนื่องจากบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถทางด้านการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้กลายเป็นสาขาที่ขาดแคลน และขาดการสนับสนุนผลักดันจากทุกภาคส่วนทำให้นักศึกษารุ่นใหม่ไม่สนใจที่จะศึกษาทางด้านนี้ หันไปเลือกทำงานทางด้านที่เป็นไปตามกระแส และยังขาดการสนับสนุนในแง่เครื่องมือ และอุปกรณ์ ทำให้ไม่สามารถผลิตบุคลากรทางด้านการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างต่อเนื่อง เป็นการทิ้งโอกาสที่จะทำให้ประเทศไทยเติบโตไปในทางธุรกิจฐานความรู้ไปอย่างน่าเสียดาย

            สมาคมสมองกลฝังตัวไทย (TESA) ร่วมกับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และเครือข่ายผู้ประกอบการทางด้านระบบสมองกลฝังตัว(Embedded System)  ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการสร้างทรัพยากรบุคลากรที่มีคุณภาพ และมีจำนวนเพียงพอต่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมนี้ในประเทศไทย จึงได้ผนึกกำลังกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีความรู้ความสามารถ และสามารถตอบสนองความต้องการภาคอุตสาหกรรม ได้จัดกิจกรรม TGR2025 เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจ แรงบันดาลใจให้กับนิสิตนักศึกษา ได้หันมาสนใจ แสวงหาความรู้ และเพิ่มความสามารถทางด้านการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ในเบื้องต้นกันมากขึ้น  ซึ่งจะมีการอบรมปูพื้นฐานความรู้ด้านต่างๆ  และมอบหมายโจทย์ให้ทำในแต่ละวัน  เพื่อเน้นการฝึกทำงานเป็นทีม การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การต่อยอดความรู้ สามารถประมวลรวบรวมความรู้ได้ และฝึกแก้ปัญหาต่างๆ จนสามารถสร้างโซลูชั่นได้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-15 พฤศจิกายน  2568 มีการทำโจทย์สะสมคะแนน 5 วัน และวันสุดท้ายจะเป็นพิธีมอบรางวัล โดยแต่ละวันจะมีการจัดอบรมเพิ่มเติมความรู้ในหัวข้อต่างๆ ก่อนจะมอบหมายโจทย์รายวัน เพื่อเก็บสะสมคะแนนในแต่ละหมวดไปจนถึงวันสุดท้ายของกิจกรรม เช่น Project Management, Hardware Programming, Simulation Programming, Machine Learning, Integration System, Presentation เป็นต้น

นอกจากนิสิตนักศึกษาจะได้ความรู้ความเข้าใจกลับไปพัฒนาต่อยอดกันแล้ว ยังเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษา อาจารย์ และผู้ประกอบการได้มีเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์กันอีกด้วย เพื่อเป็นการขยายโอกาสความร่วมมือกันในมิติต่างๆ เช่น  นิสิตนักศึกษาอาจได้มีโอกาสไปร่วมฝึกงานกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และต่อยอดไปถึงการทำ โปรเจ็กต์จบร่วมกับบริษัท ก็ได้”  รศ.วิรุฬห์ ศรีบริรักษ์ นายกสมาคมสมองกลฝังตัวไทย (TESA) กล่าว

            พร้อมทั้งได้กล่าวเสริมต่อไปอีกว่า  “การที่จะปรับฐานะของประเทศจากการเป็นผู้ใช้งานหรือรับจ้างผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มาเป็นผู้นำทางด้านการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์  จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยศักยภาพของบุคลากร ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์  ในการพัฒนาเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการออกแบบดังกล่าว ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมากในอุตสาหกรรมทางด้านยานยนต์ โทรคมนาคม การป้องกันประเทศ และอิเล็กทรอนิกส์ ตามการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดยานยนต์ ตลาดโทรคมนาคม และตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก หากประเทศไทยสามารถปรับตัว และเร่งสร้างบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทางด้านการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตอบสนองตามความต้องการของตลาดโลกได้ทัน ย่อมสามารถนำมาซึ่งผลประโยชน์มหาศาลแก่ประเทศได้”

พันเอก แดนชัย กองแก้ว ประธานคณะทำงาน โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า กล่าวว่า

            “ด้วยมีความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่กําลังดําเนินอยู่ (Current Existing Geopolitics Conflicts) เกิดขึ้นในหลายภูมิภาคของโลก ได้แก่ ความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครน  ความขัดแย้งเกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยมีคู่ขัดแย้งคือ อิสราเอลและกลุ่มต่อต้านต่างๆ ความขัดแย้งในประเทศเมียนมาร์ ระหว่างรัฐบาลทหารและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ  และอีกความขัดแย้งที่ต้องกล่าวถึง คือ ความขัดแย้งระหว่างชายแดนไทยกับประเทศกัมพูชา  เหตุการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ทั้ง 4  เหตุการณ์ แม้ว่าจะเกิดขึ้นต่างภูมิภาค แต่มีการปฏิบัติการที่เหมือนกันคือ การประยุกต์ใช้อากาศยานไร้คนขับบินเข้าไปในพื้นที่ยึดครองของฝ่ายตรงข้าม เพื่อรวบรวมข่าวสาร เช่น ถ่ายภาพที่ตั้งปืนใหญ่ ที่ตั้งของ Command Post หรือบรรทุกวัตถุระเบิดเข้าทําลาย หรือลดขีดความสามารถของยุทโธปกรณ์ของฝ่ายตรงข้ามที่มีราคาสูง เช่น รถถัง ปืนใหญ่ หรือเรดาห์ค้นหาเป้าหมาย เป็นต้น

ประเทศไทย จึงควรใช้ช่วงเวลานี้ เพื่อพัฒนาระบบการใช้อากาศยานไร้คนขับ รวมทั้งมาตรการต่อต้านในการประยุกต์ใช้กับภารกิจทางยุทธวิธีทางทหารที่หลากหลาย การเฝ้าตรวจในพื้นที่สนใจ อีกทั้งการพัฒนาระบบการใช้อากาศยานไร้คนขับ สามารถประยุกต์ใช้กับการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เช่น การช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ การค้นหาผู้รอดชีวิตเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ เป็นต้น”

      กิจกรรม TESA Top Gun Rally ครั้งที่ 19 จึงมีแนวความคิด เพื่อให้นักศึกษาสามารถเรียนรู้ การพัฒนาระบบอากาศยานไร้คนขับ ซึ่งประกอบด้วยระบบสําคัญดังต่อไปนี้

1.      ระบบจําลองการเจาะแนว Drone Spoofing ของฝ่ายตรงข้าม

2.      ระบบตรวจจับและคาดการณ์การปฏิบัติต่อฝ่ายเราของอากาศยานไร้คนขับไม่ทราบฝ่าย

3.      การส่งข้อมูลของระบบตรวจจับอากาศยานไร้คนขับผ่านเครือข่ายมาแสดงผลที่ Command Post

พร้อมทั้งได้กล่าวเสริมต่อไปว่า  “การพัฒนาระบบดังกล่าว ต้องอาศัยองค์ความรู้ในหลากหลายมิติ ได้แก่ Simulation Programming, Packaged Data Transmission, Machine Learning และ GUI ร่วมกันในการพัฒนาระบบต้นแบบ ทีมนักศึกษาต่างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรม จึงจะได้มีประสบการณ์เบื้องต้นในการพัฒนาระบบยุทโธปกรณ์ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆ ที่จะมีประโยชน์ต่อไปในการพัฒนาประเทศ

            และในการประชันทักษะทางด้านระบบสมองกลฝังตัวในครั้งนี้ ทางคณะกรรมการจะพิจารณาองค์ความรู้ และทักษะต่างๆ เช่น  วิธีคิด วิธีแก้ปัญหา และการวิเคราะห์ข้อมูล ความแม่นยำ และเทคนิคสร้างสรรค์ของแต่ละทีมอีกด้วย ”

            ทั้งนี้ การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ นอกจากจะได้รับความรู้และทักษะในด้านสมองกลฝังตัวแล้ว  คุณค่าและความสวยงามของการเข้าร่วมแข่งขัน TESA TOP GUN Rally อีกประการหนึ่งที่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะได้รับก็คือ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากวิทยากร และระหว่างผู้เข้าแข่งขันจากต่างสถาบันด้วยความสุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน เอื้อเฟื้อ โอบอ้อมอารีต่อกัน แต่จะไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาและอุปสรรค

กิจกรรม TESA Top Gun Rally  ครั้งที่ 19 ร่วมจัดโดยสมาคมสมองกลฝังตัวไทย ร่วมกับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ พร้อมด้วยพันธมิตรส่วนบริษัทดังนี้

1. บริษัท เดียแวร์ ซิสเต็ม จำกัด

2. บริษัท โตโยต้า ทูโช เน็กตี้ อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด 

3. บริษัท แมทเวิร์คส์ จำกัด 

4. บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)

5. บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) 

6. บริษัท ดีไซน์ เกทเวย์ จำกัด

7. บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)   `

8. บริษัท แอสเซนดาส ซิสเทมส์ จำกัด

9. บริษัท เอ็กซ์เซ้นส์ อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส จำกัด

10. บริษัท เอไบโอทิช จำกัด

11. บริษัท วีนัส อินเทลลิเจ็นส์ จำกัด

12. บริษัท อินสไปร์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด

13. บริษัท เคเคที เอ็มเบ็ดเด็ด ซิสเต็มส์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด

14. บริษัท เอมเมจิน จำกัด

15. บริษัท แซนโกรท จำกัด

16. บริษัท พี.จี อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด

17. บริษัท พีทีเอส คอมบิเนชั่น จำกัด

18. บริษัท เวแอม จำกัด

19. บริษัท ออคต้าเลน จำกัด

ติดตามการแข่งขัน TESA TOP GUN Rally2025  ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ TESA Top Gun Rally

-----------------------------------

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อได้ที่คุณขนิษฐา ประสารสุข  สมาคมสมองกลฝังตัวไทย ชั้น 2 ศูนย์นวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ  ถ.พระราม 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ โทร: 065-372-1900 ,089-742-2506

email: khanistha@tesa.or.th

ข้อมูลเพิ่มเติม

TESA Top Gun Rally เป็นเวทีสำหรับการค้นหาสุดยอดฝีมือวิศวกรทางด้านระบบสมองกลฝังตัวของประเทศไทย ซึ่งผู้ที่มีโอกาสได้เป็นตัวแทนของแต่ละสถาบันการศึกษาเพื่อเข้าร่วมประชันทักษะในครั้งนี้ ล้วนต้องผ่านการคัดเลือก ทดสอบ และสัมภาษณ์จากคณะกรรมการของแต่ละสถาบันมาเป็นอย่างดี ทั้งด้านวิชาการ ทัศนคติ และสังคม

สมาคมสมองกลฝังตัวไทย (Thai Embedded Systems Association: TESA) โดยความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา และผู้พัฒนา ได้จัดโครงการพัฒนาทักษะทางด้านระบบสมองกลฝังตัว (TESA Top Gun Rally) ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรทางด้านระบบสมองกลฝังตัวของประเทศไทย ให้มีความรู้ ความสามารถ และมีศักยภาพที่สามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากทางสถาบันการศึกษา ร่วม 30 สถาบัน ที่ส่งทีมนักศึกษาเข้าร่วมแสดงความสามารถในการพัฒนาระบบสมองกลฝังตัว ในระหว่างช่วงปิดภาคการศึกษาต้นของทุกปี โดยจะหมุนเวียนไปตาม คณะวิศวกรรมศาสตร์ หรือคณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยที่มีความพร้อม และได้เสนอขอเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน

รูปแบบของการดำเนินโครงการจะจัดต่อเนื่องเป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยให้ทีมนักศึกษาจำนวน 5 คนจากแต่ละสถาบันการศึกษาได้เข้ามาเรียนรู้องค์ความรู้และเทคโนโลยีของระบบสมองกลฝังตัวจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ รวมทั้งได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับงานพัฒนาจากการแก้ปัญหาต่างๆที่กำหนดในแต่ละวันบนหลักการของ Problem-Based Learning ในระหว่างการเข้าร่วมกิจกรรม นักศึกษาของแต่ละทีมจะได้รับโอกาสในการประชันความสามารถและทักษะในการเรียนรู้ การแก้ปัญหา การนำเสนอ และ ความชำนาญในการพัฒนาระบบสมองกลฝังตัว ซึ่งคณะกรรมการจะประเมินออกมาเป็นคะแนนสะสมในแต่ละครั้ง ทีมนักศึกษาที่มีคะแนนสะสมสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประชัน

ประวัติของกิจกรรม:

• ครั้งที่ 1 ในปี 2549 จัดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมีหัวข้อคือ Segway Controller

• ครั้งที่ 2 ในปี 2550 จัดที่มหาวิทยาลัยบูรพา โดยมีหัวข้อคือ Tsunami Disaster Warning System

• ครั้งที่ 3 ในปี 2551 จัดที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยมีหัวข้อคือ Real-Time Engine Control Unit (ECU)

• ครั้งที่ 4 ในปี 2552 จัดที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีหัวข้อคือ Smart Home Wireless Sensor Network

• ครั้งที่ 5 ในปี 2553 จัดที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยมีหัวข้อคือ Quality Inspection for Smart Factory

• ครั้งที่ 6 ในปี 2554 จัดที่มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมีหัวข้อคือ Patient Monitoring System

• ครั้งที่ 7 ในปี 2555 จัดที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง โดยมีหัวข้อคือ Distributed Power Quality Monitoring System

• ครั้งที่ 8 ในปี 2556 จัดที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยมีหัวข้อคือ Energy Controller and Monitoring in Home Area Network System

• ครั้งที่ 9 ในปี 2558 จัดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีหัวข้อคือ การพัฒนาอิงแบบจำลอง: ระบบคันเร่งไฟฟ้า(Model-Based Development: Electronic Throttle Control)

• ครั้งที่ 10 ในปี 2559 จัดที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดยมีหัวข้อคือ ระบบห้องเรียนอัจฉริยะ (Smart Class Room)

• ครั้งที่ 11 ในปี 2560 จัดที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น โดยมีหัวข้อคือ ระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าสำหรับเกษตรกร (Predictive Monitoring Systems)

• ครั้งที่ 12 ในปี 2561   จัดที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในหัวข้อ ระบบอัจฉริยะสำหรับอุทยานแห่งชาติ 4.0 (Smart National Park 4.0)

• ครั้งที่ 13 ในปี 2562 จัดที่มหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม ในหัวข้อ “ระบบการจัดการโบราณสถานแห่งชาติ 4.0  (Smart National Historic Site 4.0 )

• ครั้งที่ 14 ในปี 2563 จัดที่มหาวิทยาลัยพะเยา จ.พะเยา ในหัวข้อ “ระบบติดตามเฝ้าระวัง และจัดการสุขภาพแก่ผู้สูงวัย และประชาขนทั่วไป” (Health Monitoring and Management Systems for Elderly and All  Kinds of People)

• ครั้งที่ 15 ในปี 2564 จัดที่มหาวิทยาลัยสยาม (รูปแบบออนไลน์)  ในหัวข้อ “ระบบควบคุมการผลิตอัจฉริยะ” (Smart Manufacturing System)

• ครั้งที่ 16 ในปี 2565 จัดที่ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา โดยมีหัวข้อ คือ การพัฒนาอุปกรณ์สําหรับ

• จักรวาลนฤมิตร (Device Development for Metaverse)

• ครั้งที่ 17 ในปี 2566 จัดที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยมีหัวข้อ คือ ระบบแสดงผล และการจัดการสภาวะน้ำท่วมและน้ำแล้ง (Monitoring and Management System of Flood and Drought Conditions)

• ครั้งที่ 18 ในปี 2567 จัดที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา โดยมีหัวข้อคือ ระบบการบํารุงรักษาเชิงคาดการณ์ด้วยเสียง และปัญญาประดิษฐ์ โดยการคํานวณผลต้นทาง คือ (Acoustic and AI-Based Predictive Maintenance with Edge Computing)